เราคิดว่าการดำเนินเรื่องของซีรีส์เรื่องนี้ ถ่ายทอดความคิดและพฤติกรรมต่างๆของตัวละครออกมาได้ดี สามารถนำมาดูเป็นตัวอย่างและยังสามารถที่จะนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันของตนเองได้ มันขึ้นอยู่กับผู้ที่ดูชมว่าจะเอาความคิดและพฤติกรรมใดของตัวละครมาปรับใช้ แต่ที่เราได้ข้อคิดจากการดูซีรีส์นี้ คือ
1.เรื่องความรัก ในซีรีส์เรื่องนี้พยายามที่จะสื่อความหมายของคำว่ารักในหลายๆแบบ ไม่ว่าจะเป็นความรักชายหญิง พ่อแม่พี่น้อง เพื่อนและในแบบอื่นๆอีก มันสะท้อนให้เห็นว่าความรักนั้นมีหลายรู้แบบ ในซีรีส์นั้นแต่ละตัวละครก็มีการแสดงความรักของตนเอกที่แตกต่างกันไปด้วย เราสามารถที่จะเรียนรู้จากการดูซีรีส์และเลือกที่จะนำมาใช้กับเราได้
ตัวอย่างที่เราคิดว่าควรทำตามเช่น ตัวละครของเยี่ยหัว ที่มีความมั่นคงต่อความรักที่มีให้กับนางเอกเป็นอย่างมาก พยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะปกป้องป๋านเฉี่ยนและทำให้ป๋านเฉี่ยนมีความสุข ถึงแม้ว่าตนเองที่จะต้องเป็นคนที่เจ็บหรือเสียใจก็ตาม หรือไม่ว่าจะเป็นตัวละครของมหาเทพ ที่ถึงแม้ใครจะบอกว่าเรื่องของเขากับป๋ายเฟิ่งจิ่วเป็นไปไม่ได้ เขาก็ไม่ได้สนใจและยังที่จะรักป๋านเฟิ่งจิ่วต่อไป
ตัวอย่างที่เราคิดว่าไม่ควรทำตามเช่น ตัวละครของซู่จิ่น นางก็มีความมั่นคงในความรักเช่นกัน แต่ความคิดในด้านความรักของนางนั้นแย่มาก นางรู้อยู่แล้วว่าเย่หัวไม่ชอบตนอยู่แล้ว แต่ก็ยังตามตื้อไม่เลิกอันนั้นก็ยังไม่ค่อยเป็นอะไร พอเย่หัวมีคนรักนางกลับรับไม่ได้และค่อยเอาขัดขวางความรักของทั้งคู่ไม่เลิกรา
2.เรื่องความพยายาม เกือบทุกตัวละครในเรื่องต่างมีความพยายามต่างๆในแบบของตน เพื่อที่จะได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการหรือปรารถณาไว้
ตัวอย่างที่เราคิดว่าควรทำตามเช่น ตัวละครของป๋ายเฟิ่งจิ่ว นางมีความพยายามอย่างที่จะเอาชนะใจมหาเทพ ไม่ว่าจะแอบคอยดูแลและปกป้องมหาเทพอยู่ห่างๆ มหาเทพทำทุกอย่างต่างๆนาๆเพื่อมหาเทพมากมาย พอนางคิดว่านางพยายามอย่างสุดความสามารถแล้วแต่มหาเทพก็ยังไม่รักนาง นางจึงตัดใจจากมหาเทพ
ตัวอย่างที่เราคิดว่าไม่ควรทำตามเช่น ตัวละครของเสวียนหนี่ที่พยายามที่จะแทรกกลาง ระหว่างความรักของหลี่จิ้งกับซืออิน จนทั้งคู่ต้องตัดความสัมพันธ์กัน
3.เรื่องของการกระทำ เราคิดว่ากระทำของแต่ละครมันตรงกับสุภาษิตที่เราเคยเรียนอยู่สุภาษิตหนึ่งว่า“ยาทิสํ วปเต พีชํ ตาทิสํ ลภเต ผลํ กลฺยาณการี กลฺยาณํ ปาปการี จ ปาปกํ บุคคลหว่านพืชเช่นไร ย่อมได้ผลเช่นนั้น ผู้ทำกรรมดี ย่อมได้รับผลดี ผู้ทำกรรมชั่ว ย่อมได้รับผลชั่ว” หมายถึง การกระทำใด ๆ ในโลกนี้ ที่ไม่ให้ผลนั้นย่อมไม่มี ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วล้วนให้ผลทั้งสิ้น เหมือนใครหว่านพืชเช่นไร ต้องได้รับผลเช่นนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรรมที่ทำลงไปโดยมีเจตนามุ่งร้ายต่อผู้บริสุทธิ์เป็นกรรมที่ให้ผลร้ายแรง ผลกรรมจะตอบสนองกลับมาหาผู้ทำเองเหมือนการปาธุลีทวนลม ทำให้ได้รับทุกขเวทนาแสนสาหัส ละโลกแล้วต้องไปตกนรกหมกไหม้ ได้รับทุกข์ทรมานอีกยาวนาน เป็นแสนเป็นล้านปี ทุกตัวละครไม่ว่าจะทำดีหรือทำชั่วย่อมได้รับผลกรรมที่ตัวเองได้ทำไปเกือบทุกตัว
ตัวอย่างเช่น ตัวละครซู่จิ่น ที่เคยใส่ร้ายซู่ซุ่ ทำให้ซู่ซู่ได้รับโทษและโดนควักลูกตามาให้ซู่จิ่น ผลสุดท้ายกรรมก็ตามสนองซู่จิ่น เมื่อป๋ายเฉี่ยนมาทวงดวงตาของนางคืน และซู่จิ่นต้องได้รับโทษกับสิ่งไม่ดีที่นางเคยกระทำไปทั้งหมด
4.เรื่องการตอบแทนบุณคุณต่างๆ ตัวละครในเรื่องนั้นให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับการตอบแทนบุญคุณ เมื่อได้รับการช่วยเหลือจากคนอื่นแล้ว เราก็ควรมีความคิดที่จะตอบแทนบุญคุณผู้มีพระคุณ
ตัวอย่างเช่น ป๋ายเฉี่ยน ในอดีตนางเคยรับการช่วยชีวิตจากท่านเทพม่อมวย โดยท่านเทพม่อยวนนั้นยอมรับอัสนีสวรรค์แทนป๋ายเฉี่ยน ในตอนที่ท่านเทพม่อยวนจิตแตกดับป๋ายเฉี่ยนจึงยอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะช่วยทำให้ท่านเทพม่อยวนฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง
ข้อคิดนี้ ทำให้เห็นเรื่องหลายมุม ขอบคุณหลายๆเด้อ
ตอบลบนอกจากเรื่องะสนุกแล้วยังได้ข้อีกด้วยดีมากเลย
ตอบลบ